วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ครบรอบ 89 ปี ประชาธิปไตยไทย

วันนี้ 24 มิถุนายน 2564 เป็นวันครบรอบ 89 ปี ประชาธิปไตยไทยครับ ผมคิดว่าประชาธิปไตยในประเทศไทยนั้นกำลังถดถอยลงอย่างมาก จากการที่อำนาจในอธิปไตยทั้ง 3 อำนาจ อันได้แก่ อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจตุลาการ และอำนาจบริหาร ควรยึดโยงกับประชาชน เพื่อรักษาประโยชน์สูงสุดให้แก่ประชาชน แต่ในยุคนี้ อำนาจทั้ง 3 ลักษณะ กลับทำให้ดูคล้ายยึดโยงกับประชาชน แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ เช่น กรณีการตั้งนายกรัฐมนตรี, สว. หรือองค์กรอิสระ เป็นต้น ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ประชาธิปไตยในไทย ไม่ได้เป็นไปเพื่อรักษาประโยชน์สูงสุดของประชาชน แต่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้มีอำนาจและพวกพ้องต่างหาก 

สภาพปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ คือ 
1. การใช้รัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ เป็นเครื่องมือรักษาอำนาจของผู้มีอำนาจ
2. การขาดธรรมาภิบาลขององค์กรที่เกี่ยวข้อง
3. การจำกัดสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของประชาชน
4. การปิดกั้นและบิดเบือนข้อมูล ข่าวสาร ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ประชาชนควรรู้
5. การใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือปิดปากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับผู้มีอำนาจ
สภาพปัญหาเหล่านี้ เอื้ออำนวยให้ผู้มีอำนาจยังคงรักษาอำนาจไว้ต่อไปได้เท่าที่ต้องการ แม้จะมีความพยายามจากหลายฝ่ายช่วยกันหาทางออก แต่ก็ไม่สามารถทำได้โดยง่าย

ผมมองว่า จากสภาพการณ์เช่นนี้ จะทำให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตและสวัสดิการต่างๆ ลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากการนำงบประมาณซึ่งได้มาจากภาษีของประชาชนไปใช้โดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากนัก เช่น การซื้ออาวุธ การทำโครงการที่ไม่จำเป็นต่างๆ หรือการบริหารจัดการโรคระบาด เป็นต้น งบประมาณอีกส่วนหนึ่งต้องนำไปใช้หนี้ของประเทศที่มีจำนวนสูงมาก เวลานี้หลายคนก็ดีใจที่ได้รับการแจกเงินผ่านโครงการต่างๆ ของรัฐ แต่ก็ลืมไปว่านั่นเป็นหนี้สินที่กู้ยืมมาและเราต้องใช้คืนในอนาคตในรูปแบบของภาษี และลดคุณภาพชีวิตของเราลง แทนที่ผู้สูงอายุจะได้เบี้ยยังชีพสูงกว่าปัจจุบันนี้ หรือค่าใช้จ่ายบัตรทองเพื่อการรักษาพยาบาลต่อหัวจะได้สูงกว่านี้ ก็จะได้เท่าเดิมหรือน้อยลง 

นอกจากนี้ความเหลื่อมล้ำทางด้านทรัพย์สินและรายได้ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากมีการเอื้ออำนวยให้พวกพ้องที่เป็นเจ้าของกิจการใหญ่ได้สิทธิผูกขาดในตลาด ทำให้ทรัพย์สินและรายได้ของประชาชนจะยิ่งแตกต่างกันมากขึ้น และในทางธุรกิจก็ขาดการแข่งขันกันอย่างยุติธรรมด้วย

อย่างไรก็ตาม ผมยังหวังว่าสักวันหนึ่ง ประเทศไทยของเราจะสามารถพัฒนาไปสู่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริงได้ วิธีการที่ผมพอมองเห็นในเวลานี้ก็คือ การกระจายความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ข้อเท็จจริงต่างๆ ให้ประชาชนรับรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ประชาชนสามารถคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ความถูก/ผิด ดี/ชั่ว ควร/ไม่ควร เหมาะ/ไม่เหมาะ ได้ด้วยตนเองครับ 





วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ควรเรียนภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษมากกว่ากัน

ในประเด็นนี้ สิ่งสำคัญคือเรื่องการเพิ่มคลังคำศัพท์ขึ้นในสมองครับ เพราะคำศัพท์จะนำไปสู่การสร้างมโนภาพและจินตนาการ ยิ่งมีคำศัพท์ในหัวมากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้คิดมโนภาพได้มากขึ้นเท่านั้น คำศัพท์ที่ไม่ค่อยได้ใช้จะค่อยๆ สูญหายไปและฟื้นฟูยาก

ในส่วนตัวผม เนื่องจากเราอยู่ในประเทศไทย ใช้ภาษาไทยสื่อสารเป็นหลัก ผมคิดว่าควรจะต้องมีคำศัพท์ภาษาไทยอยู่ในสมองมากๆ ครับ มันจะส่งผลให้คนไทยสร้างมโนภาพและจินตนาการได้ดียิ่งขึ้น ส่วนภาษาอังกฤษนั้นก็มีความจำเป็น โดยเฉพาะการสื่อสารกับชาวต่างชาติ เราก็ควรมีคำศัพท์ในสมองมากๆ เช่นกัน

แต่ถ้าจะเปรียบเทียบว่าควรเรียนภาษาอะไรมากกว่ากัน ผมคิดว่าในยุคสมัยนี้ ทั้งสองภาษาต่างก็มีคุณค่าพอๆกัน ภาษาไทยมีความจำเป็นเพราะเราเป็นคนไทย ส่วนภาษาอังกฤษนับวันก็ต้องใช้มากขึ้นทั้งการติดต่อสื่อสารและการเรียนรู้ ดังนั้น จะบอกว่าควรเรียนภาษาใดมากกว่ากันนั้นคงไม่ได้ เอาเป็นว่าขอให้เน้นไปที่เรื่องการเพิ่มคำศัพท์ในคลังสมองทั้ง 2 ภาษา จะดีกว่าครับ 







วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ซื้อรถมือสองอย่างไรให้คุ้มค่า

ผมเองผ่านการซื้อรถยนต์มาใช้งาน 5 คันแล้ว ไม่เคยซื้อรถมือหนี่งเลย เพราะคิดว่าถ้ารู้จักหาข้อมูลสักนิด การซื้อรถมือสองจะได้รับส่วนลดมากกว่าซื้อรถมือหนึ่งหลายเปอร์เซ็นต์เลยล่ะครับ หลักการซื้อรถมือสองให้คุ้มค่า ผมจะพิจารณาดังนี้ครับ

1. เป็นรถมือสอง ที่ใช้ไปแล้วประมาณ 1-2 ปี เราจะได้ราคาลดลงประมาณ 20-30 % เลยทีเดียว
2. เป็นรถที่ดูแลบำรุงรักษาง่าย เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก ใช้แบบทั่วไปที่เขาใช้กัน
3. เป็นรถที่ซ่อมแซมง่าย โดยช่างทั่วไป ไม่ต้องใช้ช่างเฉพาะยี่ห้อ หรือช่างเฉพาะทาง
4. เป็นรถที่อะไหล่หาง่ายและราคาไม่แพง รถบางยี่ห้อราคารถถูก แต่อะไหล่หายากและราคาแพงครับ
5. เป็นรถที่ประหยัดน้ำมัน แน่นอนเพราะรถกินน้ำมันมาก ย่อมเปลืองเงินเราครับ
6. เป็นรถที่ขายต่อได้ราคาหรือเป็นรถตลาด เพราะสักวันหนึ่งเราอาจต้องขายเพื่อซื้อคันใหม่ครับ

นี่เป็นหลักการซื้อรถมือสองของผม ใครจะลองนำไปใช้ก็ได้นะครับ 







วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2563

ฮอลลีวูดบ้านนา มนต์รักบางพุทรา

ผมได้มีโอกาสช่วยเหลือชุมชนบ้านบางพุทราของผม โดยร่วมกับผู้นำชุมชนและหน่วยงานพัฒนาชุมชนอำเภอราชสาส์น สร้างชุมชนท่องเที่ยวขึ้นมา ให้ชื่อว่า "ฮอลลีวูดบ้านนา มนต์รักบางพุทรา" เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากวัดโสธร ,วัดสมานฯ ,ตลาดน้ำบางคล้า และทั่วๆไป เข้ามาท่องเที่ยวในหมู่บ้านของเรา และจับจ่ายซื้อหาสินค้าในหมู่บ้าน เราเปิดทุกวันพฤหัสบดี - วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 - 21.00 น.

เชิญมาเที่ยวกันเยอะๆนะครับ สำหรับเส้นทางให้พิมพ์ในกูเกิลว่า "ฮอลลีวูดบ้านนา มนต์รักบางพุทรา" จะแสดงเส้นทางมาถึงเลยครับ แหล่งท่องเที่ยวตรงนี้อยู่ห่างจากสวนป่าดีนี่ ประมาณ 1 กิโลเมตรครับ










วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เงินทองของมายา ข้าวปลาเป็นของจริง

อาชีพเกษตรกรมีความดีพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง คือ สามารถเข้าถึงปัจจัยสี่ได้โดยตรง ปัจจัยสี่เป็นพื้นฐานความต้องการของมนุษย์ มีเพียงอาชีพเกษตรกรเท่านั้นที่สามารถผลิตอาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัยได้ โดยไม่ต้องผ่านการหาเงินก่อน เป็นที่น่าเสียดายว่าเกษตรกรในโลกนี้กลับมีฐานะยากจน มีภาพลักษณ์ที่ต่ำต้อย เพียงเพราะว่าเกษตรกรทำการผลิตเพื่อมุ่งไปหาเงินแทนที่ปัจจัยสี่ ซึ่งทำให้เกษตรกรใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก เป็นหนี้สิน ตรากตรำ แต่กลับได้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่า

หนทางแก้ไขก็คือ เกษตรกรต้องเรียนรู้ที่จะผลิตปัจจัยสี่เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดก่อน แล้วจึงเพิ่มเติมด้วยการเรียนรู้เรื่องการประกอบธุรกิจ พูดง่ายๆ ก็คือ ทำให้ชีวิตอยู่รอดด้วยปัจจัยสี่ที่ตัวเองสามารถผลิตได้ก่อน แล้วจึงคิดวิธีหาเงิน ซึ่งในยุคสมัยนี้ต้องใช้ทั้งความรู้และความคิดสร้างสรรค์เข้ามาช่วยครับ




วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ไม้หลายระดับ

การปลูกไม้หลายระดับ เป็นแนวคิดเรื่องการปลูกต้นไม้ในสวนอีกแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจ เพื่อให้เกิดการผสมผสานกันโดยใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด ผมเองจัดหมวดหมู่ของการปลูกต้นไม้ตามระดับความสูงไว้ดังนี้ครับ

1.สูง คือ ไม้ยืนต้น สูง 20 เมตร ขึ้นไป เช่น สัก ยางนา ตะเคียน ประดู่ ไม้ป่าทั้งหลาย
2.กลาง คือ ไม้ยืนต้น สูง 5 - 20 เมตร ส่วนใหญ่เป็นไม้ผล เช่น มะม่วง กระท้อน ขนุน ทุเรียน
3.ต่ำ คือ ไม้ที่มีความสูง 1.5 - 5 เมตร ส่วนใหญ่เป็นไม้พุ่ม เช่น มะนาว น้อยหน่า มะละกอ กล้วย
4.เตี้ย คือ สูงไม่เกิน 1.5 เมตร เช่น มะเขือ กระเพรา โหระพา พริก ตะไคร้
5.เรี่ยดิน คือ พืชพวกที่หากินอยู่บริเวณผิวดิน เช่น ผักสวนครัวต่างๆ ใบบัวบก ชะพลู
6.ใต้ดิน คือ พืชพวกที่มีหัวอยู่ใต้ดิน เช่น ขิง ข่า กระชาย เผือก มัน กลอย
7.ผิวน้ำ คือ พืชที่อยู่บริเวณผิวน้ำ เช่น ผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักแว่น
8.ใต้น้ำ คือ พืชที่เติบโตอยู่ใต้น้ำ เช่น กระจับ บัว สาหร่าย
9.เลื้อยพันเกาะเกี่ยว คือ พืชที่มีเถามีเครือทั้งหลาย เช่น พริกไทย มะระ บวบ น้ำเต้า ถั่วฝักยาว

ลองเอาไปพิจารณาปลูกดูนะครับ จะได้เป็นสวนเกษตรผสมผสานที่มีพืชหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ต้องเสี่ยงขาดทุนกับพืชเชิงเดี่ยวอีกต่อไปครับ
 





วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563

การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย

ในมุมมองของผม ผมชอบแนวคิดของโรเบิร์ต คิโยซากิ นักเขียนหนังสือชุดพ่อรวยสอนลูก เขากล่าวว่า การเป็นหนี้นั้นไม่ใช่เรื่องเสียหายถ้าเข้าใจเรื่องหนี้ดีพอ หนี้แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ หนี้ดีและหนี้เสีย

หนี้ดี คือ หนี้ที่เรานำไปซื้อทรัพย์สิน ทำรายได้เข้าสู่กระเป๋าเรา เช่น ซื้อบ้านให้เช่า ซื้อเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ซื้อโทรศัพท์ไว้ขายของออนไลน์ เป็นต้น ส่วนหนี้เสีย คือ หนี้เพื่อการบริโภค ซึ่งเรานำไปซื้อสิ่งที่นำเงินออกจากกระเป๋าเรา เช่น อาหาร ของใช้ รถยนต์ เครื่องไฟฟ้า เป็นต้น

ดังนั้น หากทำความเข้าใจในเรื่องการเงินให้ดี โดยเฉพาะเรื่องหนี้ การเป็นหนี้นั้นไม่ใช่เรื่องเสียหาย กลับเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำไปในยุคสมัยนี้ เพียงแต่เราต้องรู้จักคิด วิเคราะห์ พิจารณาให้ดีว่าเรากำลังก่อหนี้ดีหรือหนี้เสีย ถ้าเป็นหนี้เสียควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง หรือหากก่อขึ้นมาแล้ว ก็ควรรีบจัดการใช้ให้หมดไป ก่อนที่จะสายเกินแก้ครับ